top of page
ZONA 2.png

BY Psi Drakaz

Finding the Truth

 

Chapter 2 : Finding the Truth

by Psi Drakaz

ZONA’s Story

“อุว้ายยยยยย สายแล้วค่าาาาาาา”

โซน่ารีบหยิบอาหารเช้าที่คุณแม่ทำให้ และวิ่งออกไปขึ้นรถที่รอเธออยู่ 

“อย่าลืมอะไรนะลูกกกก หยิบโทรศัพท์กับกระเป๋าสตางค์ไปด้วยนะะะะ”

คุณแม่คริสทีนตะโกนไล่ตามหลังไป ด้วยความเอ็นดู

“ไม่ลืมค่าาาาา เอามาแล้วววว” โซน่าตะโกนกลับมาพร้อมกับเสียงที่ค่อย ๆ เบาลง

จากรถที่รีบขับออกไปด้วยความเร็วสูง

 

เวลาผ่านไปหลายปีแล้ว นับจากวันที่สองสามีภรรยาตระกูลไอเดอร์ได้พบกับโซน่า

หญิงสาวปริศนาที่มาเกยตื้นอยู่ที่ชายหาดอย่างลึกลับ

หลังจากที่เรียนโฮมสคูลเพื่อวัดระดับมัธยมได้ เธอก็ได้เข้าเรียนโรงเรียนชื่อดังประจำเมือง

เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และปรับตัวให้ทันกับคนอื่น ๆ โซน่าใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเรื่อยมา

และไม่ลืมที่จะตามหาว่า ความทรงจำที่หายไปนั้นคืออะไร

 

“อ๊ะ โซน่าลืมเอาการบ้านมา” โซน่าพูดพลางนั่งพึมพำกับตัวเองอยู่นาน

ก่อนที่จะยิ้มแห้ง ๆ เมื่อคุณครูเดินเข้ามาในห้อง และนักเรียนคนอื่นกำลังทยอยส่งการบ้าน …

 

ก่อนที่คุณครูจะนั่งเช็กการบ้านของนักเรียนทุกคน สาวรูปร่างสูงเพรียวคนหนึ่ง

ยื่นหน้าเข้ามาทางประตูห้องเรียน

 

“สวัสดีค่ะคุณครู พอดีว่า ชมรมมีประชุมด่วน

อยากรบกวนขอเชิญโซน่าไปประชุมชมรมก่อนน่ะค่ะ รบกวนด้วยนะค้าาาาา”

สาวผิวแทนสุดฮอตของโรงเรียน รีบตะโกนบอกกับคุณครู

พลางมองไปที่โซน่า ที่รู้สึกดีใจ เหมือนมีคนมาช่วยชีวิตอีกครั้ง …

 

“อ้าวเหรอ ได้สิ แล้วครั้งหน้าไม่ต้องตะโกนก็ได้นะ ครูตกใจ”

คุณครูตอบกลับพลางโบกมือเป็นสัญญาณให้โซน่าออกจากห้องได้

ท่ามกลางสายตาของนักเรียนคนอื่นอีกมากมายที่มองสาวผิวแทนสุดฮอตตาไม่กระพริบ

 

“โอ้ยยยยย ขอบคุณมากเลยน้าโฮคุ ที่มาช่วย ไม่งั้นโดนครูดุแน่เลยอะ”

โซน่านั่งและวางกระเป๋าลงบนโต๊ะด้วยความโล่งอก

“สบายมากเลย ว่าแล้วว่าโซนี่ต้องลืมเอาการบ้านมา นั่งหน้าซึมแบบนั้น ใคร ๆ ก็ดูออก ฮ่า ๆๆ”

 

สาวผิวแทนคนนั้นคือโฮคุ เพื่อนของโซน่านั่นเอง ทั้งสองต่างก็ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมา

ตั้งแต่โซน่าย้ายเข้ามาเรียน โดยที่โฮคุจะเรียกโซน่า ว่าโซนี่อยู่ตลอดเวลา

เพราะการอยู่ชมรม “สมาพันธ์ศึกษาสิ่งลี้ลับและตำนานเหนือหลักการวิทยาศาสตร์” ด้วยกัน

ทำให้ทั้งสองสนิทกันมากขึ้น และโฮคุที่ชอบเรื่องลี้ลับ ก็ได้ยินมาว่าโซน่าสูญเสียความทรงจำ

จึงทำให้เธออยากช่วยตามมาความทรงจำของโซน่าเท่าที่จะทำได้อีกด้วย

 

“แล้วนี่เป็นอย่างไรบ้างล่ะ ? มีเรื่องความทรงจำ หรือเบาะแสใหม่ มาอัปเดตกันบ้างไหม ?”

โฮคุถามด้วยเสียงที่สดใส เธอเป็นสาวมากพลังและแทบจะดูสดใสอยู่ตลอดเวลา

“อืมมมม … ไม่เลยล่ะ ครั้งล่าสุดก็กระโดดลงทะเลเลย แต่ก็ไม่ได้ยินอะไรสักอย่าง ...”

โซน่าตอบอย่างเบื่อหน่ายพร้อมหยิบขนมของโฮคุไปกิน

“ห๊าาาาา กระโดดลงทะเลจากระเบียงเลยเนี่ยนะ !! บ้าไปแล้วโซนี่ คุณแม่ไม่ดุเหรอ”

โฮคุตกใจร้องตะโกนลั่นคนอื่นหันมามองพร้อมกับส่งสายตาให้เบาเสียงลง

“ไม่ดุหรอก แต่ร้องไห้ใหญ่เลย โซน่ารู้สึกผิดมากเลย แต่ก็สนุกดีนะ ฮิฮิ”

โซน่าส่งสายตาแสนซนให้กับโฮคุ พร้อมกับกินขนมจนหมด

“อ้าววว โซนี่ แอบกินขนมโฮคุหมดอีกแล้วนะ … 

แต่ไม่เป็นไร วันนี้โฮคุมีเบาะแสใหม่จะมาอัปเดตให้โซนี่ด้วย”

โฮคุหยิบสมุดจดของตัวเองที่มีการบันทึกและวาดแผนผังราว

กับเป็นการสันนิษฐานอาชญากรรมครั้งยิ่งใหญ่ …

 

“ดูนี่นะ จากเบาะแสครั้งก่อน ที่โซนี่เล่ามา

ทุกเรื่องราวต่าง ๆ และเสียงในหัว มาจากคลื่น และทะเลหมดเลยใช่ไหมล่ะ ?

โฮคุรวบรวมความเป็นไปได้แล้วพบว่า ทั้งหมด มีส่วนเกี่ยวข้องกัน 1 อย่าง

นั่นคือ ทะเลนั่นเอง !!

บางทีการที่อยู่ใกล้ทะเลก็จะช่วยได้ส่วนหนึ่ง แต่การที่ไม่ได้ยินเสียงอะไรเพิ่มเติม

อาจจะเป็นเพราะ โซนี่พยายามมองหา หรือตั้งใจฟังเสียงคลื่นมากเกินไปหรือเปล่า…?”

โฮคุพูดอย่างเป็นเหตุเป็นผลและมีหลักการ พลางใช้ปากกาชี้และลากเส้นจุดเชื่อมโยงบนสมุด

ครั้งแล้วครั้งเล่า ประกอบกับการสันนิษฐาน ทำให้โซน่ารู้สึกทึ่งและขำอย่างบอกไม่ถูก

“และในที่สุด โฮคุก็ไปรวบรวมสิ่งที่คิดว่าจะช่วยโซนี่ได้ จากการค้นคว้า

และดูข้อมูลพื้นฐานของทะเลแถวนี้ จะต้องมีอะไรบางอย่างก็ได้ !!”

โฮคุหายไปครู่หนึ่งพร้อมกับหนังสือกองโตเท่าภูเขา และวางลงบนโต๊ะดังโครม !

 

“นี่แหละเบาะแสเบื้องต้น ความจริงยังมีอีกเยอะเลยนะ แต่โฮคุช่วยตัดความเป็นไปได้

และแบ่งกองหนังสือเป็นสามกอง เราทยอยอ่านแต่ละกอง

เริ่มจากกองที่มีความน่าสนใจมากที่สุด ไปกองที่น่าสนใจน้อยที่สุดแล้วกันนะ !!”

โฮคุพูดอย่างขะมักเขม้น และแบ่งหนังสือกันอ่านอย่างรวดเร็ว

ทั้งสองมีความสามารถในการอ่านหนังสือที่รวดเร็วมาก 

เพราะช่วยกันค้นคว้าหาข้อมูลจากหลายที่

เผื่อว่าจะมีเบาะแสสำหรับความทรงจำของโซน่าบ้าง

 

เสียงนาฬิกาของโรงเรียนดังขึ้น หมดเวลาแล้ว ทั้งสองจะต้องไปเรียนในวิชาต่อไป

โฮคุจึงหยิบหนังสือ 5 เล่มของกองแรกให้กับตัวเอง และกองที่เหลือให้กับโซน่า 

“ฝากกองที่เหลือด้วยนะ ถ้าไม่ครบ เก็บเอาไว้อ่านที่บ้านนะโซนี่ 

ใช้โควต้าการยืมของโฮคุได้เลย !  ไปเรียนก่อนน้าาาาา”

โฮคุหยิบกระเป๋ารีบออกไปเรียนต่อ ทิ้งให้โซน่านั่งอึ้งอยู่คนเดียวท่ามกลางกองนั่งสืออีกหลายกอง 

 

โซน่าหยิบหนังสือบางส่วนที่ยังไม่ได้อ่าน ทำเรื่องยืมหนังสือกับห้องสมุด

และขนกลับมาบ้านมากมายจนคุณแม่ตกใจ และช่วยกันขนมาวางไว้ที่โต๊ะของโซน่า

 

“จะอ่านหมดเหรอลูก ? เอ้อ ! แล้วก็เมื่อเช้า ลูกลืมการบ้านนะจ๊ะ

อย่าลืมเอาใส่กระเป๋าไว้เลยนะ เพราะพรุ่งนี้น่าจะตื่นสายอีก ...”

คริสทีนถามด้วยเสียงที่อ่อนโยนเหมือนเดิม สายตามองไปที่กองหนังสือมากมายบนโต๊ะ

 

“อย่ามารู้ทันโซน่านะ ! ”  โซน่ายิ้มแก้เขิน ก่อนที่จะหยิบสมุดจดการบ้านใส่กระเป๋า

และเริ่มต้นอ่านหนังสือที่วางเป็นกองพะเนินอยู่ 

“เอาล่ะ ไม่กวนละน้า ถ้าหิวลงไปห้องครัวได้นะ ม๊าทำข้าวแกงกะหรี่ของโปรดหนูไว้ด้วยล่ะ”

คริสทีนมองโซน่าด้วยความเอ็นดูและประหลาดใจเล็กน้อย ที่โซน่าไม่แสดงอาการดีใจออกมามากนัก เพราะกำลังจดจ่อและเร่งหาข้อมูลในหนังสืออย่างรวดเร็ว นั่นเป็นสัญญาณที่บอกว่า

เธอกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับความทรงจำที่หายไปแน่นอน

 

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับกองหนังสือที่โซน่าใช้ทักษะขั้นสูงในการอ่านสแกน

จนกระทั่งเธอผล็อยหลับไป

 

ในฝัน เธอได้ยินเสียงเรียกด้วยภาษาประหลาดแต่รู้สึกคุ้นเคย ประโยคเดิมซ้ำ ๆ อีกครั้ง

 

“ET’DEM

CEA HUM ERE SON 

MU IR DUPA AEMIN MOS’ 

 

เธอพบว่าตัวเองอยู่บนผิวน้ำ ที่ใสและสะท้อนราวกับกระจก

เธอก้มลงมองดูเงาตัวเองสะท้อนผิวน้ำ

จู่ ๆ ก็เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง แต่นั่นไม่ทำให้ผิวน้ำนั้นเคลื่อนไหวเลย

การสั่นสะเทือน ทำให้เธอมองเห็นบางอย่างใต้ผิวน้ำลาง ๆ มันเป็นเหมือนตึก

หรือแท่งศิลาอะไรบางอย่างเป็นจำนวนมากที่เธอรู้สึกคุ้นเคย

โซน่าพยายามดันตัวเองให้จมลงใต้ผืนน้ำที่เธอยืน แต่เธอก็ไม่สามารถทำได้

มันเหมือนเธอยืนอยู่บนแผ่นกระจกใสบาง ๆ ที่คั่นตรงกลางระหว่างเธอกับใต้น้ำเท่านั้น

และจู่ ๆ เหล่าเมฆบนฟ้าก็หยุดเคลื่อนไหว มีผงสีรุ้งปลิวไปมา

พร้อมกับบางสิ่งลักษณะคล้ายดาวตก ลอยข้ามฟากฟ้าและกำลังตกลงไปยังเส้นขอบฟ้า

มันมีสีที่แตกต่างกัน เส้นหางของดาวตกนั้นส่องแสงเป็นสีรุ้งออกมา

ท่ามกลางความสวยงามที่เห็นนี้ เสียงก็ดังขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ มันไม่เหมือนกับครั้งก่อน

 

ET’DEM

ET’DEM XOV XETLA’

ET’DEM XOV XEQITNA

น้ำตาของเธอไหลออกมาอีกครั้ง เสียงก้องในหัวก็ดังขึ้นเรื่อย ๆ วนไปวนมาหลายครั้ง

เมื่อหยดน้ำตาของเธอหยดลงบนผิวน้ำ เธอก็ได้ร่วงหล่น จมลงไปใต้น้ำ

 

ใต้น้ำนั้นเธอได้พบว่าเหล่าแท่งศิลาเหล่านั้นแท้จริงแล้วคือตึก อาคารต่าง ๆ

และสิ่งที่ทำให้เธอมองเห็นอาคารต่าง ๆ ได้นั้น มาจากแสงจาก แท่งอัญมณีขนาดใหญ่

ที่หมุนและส่องแสงสว่างราวกับแสงของประภาคาร

 

เธอพบกับรูปปั้นหินขนาดใหญ่ยักษ์ที่หน้าตาคล้ายกับมนุษย์ ก่อนที่สร้อยคอของเธอ

จะส่องแสงชี้ไปยังรูปปั้นหินนั้น รูปปั้นเริ่มขยับและลืมตามองมาที่โซน่า

เธอตกใจสุดขีดและพยายามจะหนี รูปปั้นส่งคลื่นเสียงกลับมาหาเธอ

มันเป็นคลื่นเสียงที่ทรงอานุภาพมาก ถึงขั้นที่โซน่าได้ยิน

และสามารถมองเห็นมันเป็นวงเส้นแสงสีฟ้า กำลังพุ่งมาที่เธอ

 

ET’DEM

ET’DEM XOV XETLA’

ET’DEM XOV XEQITNA

โซน่าพยายามจดจำคำที่ได้ยินในหัว และลองพูดออกไป ด้วยสัญชาตญาณของเธอ

จู่ ๆ เหล่ารูปปั้นหินก็นิ่งและชะงักลง ยกเว้นคริสตัลที่ยังคงส่องแสงสว่างดุจประภาคารต่อไป

 

“เหมือนจะเริ่มจำความได้แล้วนะ …”

เสียงหนึ่งดังขึ้น ท่ามกลางเสียงรบกวนของคลื่น และเสียงอื่น ๆ ก็ได้เงียบลง 

 

“กลับบ้านเราเถอะ กลับมาที่บ้านของเรา”

เสียงของชายคนนั้นยังคงอยากให้เธอได้กลับไปยังที่ๆ เธอจากมา

“OGE VNI”

“แล้วพบกัน XONIA XUNI CA’ TRIX”

 

โซน่าถูกกระแสน้ำพัดออกอย่างรุนแรง ทำให้เธอตื่นจากการเผลอหลับ

เธอรู้สึกเสียใจมาก เพราะใช้เวลานานมากกว่าที่จะสามารถได้พบและได้ยินเสียงประหลาดนี้ 

แต่สามารถเก็บข้อมูลหรือรื้อฟื้นเรื่องราวได้ไม่มากนัก

 

ขณะที่กำลังนั่งเสียใจอยู่นั้น ตาของเธอก็เหลือบไปเห็นรูปภาพบนหนังสือ

มันเป็นแผ่นจารึกของอาณาจักรลึกลับ ที่เชื่อกันว่าหายสาบสูญไป

อาณาจักรที่เธอค่อนข้างมั่นใจว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน

รูปแบบของจารึกและเหล่าแท่งศิลาประหลาดนั่น …

 

โซน่าเอาตารางเปรียบเทียบตัวอักษร เพื่อพยายามอ่านข้อความในจารึกนั้น

“อาณาจักร XUNIC” เธออ่านชื่อนี้ออกมาพร้อมกับความเจ็บปวดที่หัวของเธออีกครั้ง

“XONIA ZUNI CA’TRIX … XONIA ZUNI CA’TRIX … XONIA ZUNI CA’TRIX”

เธอพูดประโยคนี้ซ้ำไปซ้ำมา พร้อมกับกุมหัวของตัวเองเอาไว้ด้วยความเจ็บปวด

คริสทีนที่กำลังนำข้าวแกงกะหรี่ของโปรดของโซน่า ขึ้นมาให้ที่ห้อง ตกใจกับสิ่งที่เห็น

เธอรีบวิ่งไปช่วยโซน่า ที่กำลังกรีดร้อง ดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีเงิน

และส่องแสงจ้าออกมาเหมือนเพชร

เคอร์ทินได้ยินเสียงเอะอะจากด้านบนจึงรีบตามขึ้นมาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด

และรีบเรียกรถพยาบาล โซน่ากรีดร้องสุดเสียงก่อนที่จะสลบไป

 

“จงรับฟัง”

“จงตามหา”

“จงตื่นขึ้นมาอีกครั้ง”

bottom of page